ติดโซล่าเซลล์ คุ้มไหม ขายไฟให้การไฟฟ้าได้หรือไม่

หลายคนที่กำลังคิดว่าติดตั้งโซล่าเซลล์แล้วคุ้มหรือไม่ สรุปสั้นๆ เลย คือ คุ้มแน่นอนในระยะยาว เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดไฟต่อเดือนได้เรื่อยๆ จนสามารถคืนทุนได้แล้ว ยังสามารถที่จะขายไฟให้กับการไฟฟ้า เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับทางเจ้าบ้าน เจ้าของอาคารได้อีกด้วย

โดยในบทความนี้ เราจะมาดูรายละเอียดกันว่า ติดโซล่าเซลล์แล้วคุ้มยังไง และจะขายไฟคืนให้กับการไฟฟ้าได้อย่างไร

รู้จักกับโซล่าเซลล์

โซล่าเซลล์ หรือที่เรียกกันว่า เซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ หรือ ซลล์โฟโตโวลตาอิก (PV) คืออุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ไปเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยจะผลิตจากวัสดุประเภทสารกึ่งตัวนำ (Semiconductor) เช่น ซิลิโคน ซึ่งโซล่าเซลล์หลายๆ เซลล์รวมกัน จะกลายเป็นแผงโซล่าเอาไว่ติดตั้งใช้งาน

หลักการทำงานคร่าวๆ คือ เมื่อแผงโซล่าเซลล์ได้รับแสงอาทิตย์อย่างเพียงพอ อิเล็กตรอนที่อยู่ใน Semiconductor ก็จะถูกกระตุ้น และเริ่มผลิตกระแสไฟฟ้า หลังจากนั้น จะมีอุปกณณ์ที่เรียกว่าอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ซึ่งจะเป็นตัวเปลี่ยนไฟฟ้าแบบ DC ไปเป็น AC ที่ใช้ภายในบ้านต่อไป

โดยระบบโซล่าเซลล์นั้น มี แบบ ได้แก่:

  1. ระบบออนกริด คือ ระบบที่ต่อตรงเข้ากับกริดไฟฟ้าของหน่วยงานรัฐ
  2. ระบบออฟกริด เป็นระบบที่ทำงานด้วยพลังงานแสงอาทิตย์แบบเต็มรูปแบบ ไม่มีการพึ่งพาไฟฟ้าจากหน่วยงาน
  3. ระบบไฮบริด เป็นระบบที่รวมการทำงานของทั้งออนกริดและออฟกริดเข้าด้วยกัน โดยจะมีการต่อเข้ากับกริดไฟฟ้าของหน่วยงาน แต่ก็สามารถจ่ายไฟผ่านแบตเตอรี่ได้เมื่อจำเป็น

คำนวณความคุ้มค่า

เมื่อรู้หลักการทำงานและระบบของแผงพลังงานแสงอาทิตย์แบบคร่าวๆ กันไปแล้ว เราลองมาดูตัวอย่างการคำนวณว่า ติดตั้งโซล่าเซลล์แล้ว คุ้มหรือไม่

ยกตัวอย่างเช่น ราคาการติดตั้งโซล่าเซลล์ รวมอุปกรณ์ต่างๆ จะอยู่ที่ประมาณ 180,000 ถึง 300,000 บาท

โดยเฉลี่ย คนไทยใช้ไฟฟ้าประมาณ 6,000 kWh ต่อปี

ค่าไฟโดยเฉลี่ยต่อ kWh จะอยู่ที่ประมาณ 4 บาท หากไม่มีโซล่าเซลล์ ราคาค่าไฟที่ต้องจ่ายต่อปี = 6,000 kWh * 4 บาท/kWh = 24,000 บาท

หากมีการติดตั้งโซล่าเซลล์ และตัวแผงสามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 5,000 kWh ต่อปี ก็ สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ประมาณ 20,000 บาท

เราลองมาการวิเคราะห์ต้นทุนและการประหยัดรายปีเป็นเวลา 25 ปี โดยพิจารณาจากอายุการใช้งานของระบบและอัตราการเสื่อมประสิทธิภาพทั่วไป (แผงโซลาร์เซลล์มีอัตราการเสื่อมประสิทธิภาพประมาณ 0.5% ต่อปี) โดยจะสมมุติว่า ราคาค่าติดตั้งที่ลงทุนไป อยู่ที่ 220,000 บาท

ปีการลงทุนสะสมการประหยัดรายปีการประหยัดสะสมการประหยัดสุทธิ
1220,000 บาท20,000 บาท20,000 บาท-200,000 บาท
2220,000 บาท19,900 บาท39,900 บาท-180,100 บาท
3220,000 บาท19,800 บาท59,700 บาท-160,300 บาท
4220,000 บาท19,700 บาท79,400 บาท-140,600 บาท
5220,000 บาท19,600 บาท99,000 บาท-121,000 บาท
10220,000 บาท19,100 บาท189,500 บาท-30,500 บาท
15220,000 บาท18,600 บาท277,000 บาท57,000 บาท
20220,000 บาท18,100 บาท361,500 บาท141,500 บาท
25220,000 บาท17,600 บาท443,000 บาท223,000 บาท

ปัจจัยที่มีผลต่อการประหยัด:

  1. เงินที่ใช้ลงทุนไป: จากตัวอย่าง จะเห็นได้ว่า เราได้ลงทุนไปค่อนข้างเยอะ จึ่งใช้เวลาประมาณ 13-15 ปีในการคืนทุน แต่หากลงทุนน้อยกว่านี้ ก็สามารถคืนทุนได้เร็วขึ้น
  2. อัตราค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
  3. การบำรุงรักษา: แม้ว่าแผงโซลาร์เซลล์จะต้องการการบำรุงรักษาน้อย แต่การทำความสะอาดและการตรวจสอบเป็นครั้งคราวอาจมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย
  4. ระบบเก็บพลังงานแบตเตอรี่: การเพิ่มระบบเก็บพลังงานแบตเตอรี่ (ในกรณีที่ติตั้งด้วยระบบออฟกริดและไฮบริด) จะเพิ่มการลงทุนเริ่มต้น แต่จะช่วยเพิ่มความเป็นอิสระด้านพลังงานและการประหยัดค่าใช้จ่าย

นอกจากเรื่องการคืนทุนและการประหยัดค่าไฟแล้ว ตามสิถิติ อสังหาริมทรัพย์ที่มีการติดตั้งโซล่าเซลล์ ยังสามารถเพิ่มมูลค่าได้อีกด้วย โดยจะอยู่ที่ประมาณ 4% สูงกว่าราคาทั้วไป

การขายไฟคืนให้กับการไฟฟ้า

สำหรับผู้ที่ติดตั้งโซล่าเซลล์แบบออนกริดและไฮบริด ที่มีการต่อตรงเข้ากับมิเตอร์ของหน่วยงานรัฐ สามารถที่จะขายไฟส่วนเกินที่ถูกผลิตคืนให้กับการไฟฟ้าได้อีกด้วย แต่จะต้องมีการทำสัญญาขายไฟขึ้นมา พร้อมมีเงื่อนไขที่ต้องเข้าใจก่อน โดยเบื้องต้น สามารถดูขั้นตอนรายละเอียดคร่าวๆ ได้ที่ https://myenergy.mea.or.th/ หรือ https://ppim.pea.co.th/

คุณสมบัติของผู้ที่จะยื่นขายไฟ

บุคคลทั่วไป:

  • เป็นเจ้าของหรือครอบครองที่ดินที่ตั้งสถานที่ผลิตไฟฟ้า
  • ต้องการขายไฟฟ้าส่วนเกินจากระบบผลิตไฟฟ้าของตนเอง
  • ผ่านเกณฑ์มาตรฐานทางเทคนิคและความปลอดภัยของ กฟผ. หรือ กฟภ.
  • ลงทะเบียนเป็นผู้ประกอบการพลังงานขนาดเล็ก (Small Power Producer – SPP) กับ กฟผ. หรือ กฟภ.

นิติบุคคล:

  • เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
  • ต้องการขายไฟฟ้าจากระบบผลิตไฟฟ้าของตนเอง
  • ผ่านเกณฑ์มาตรฐานทางเทคนิคและความปลอดภัยของ กฟผ. หรือ กฟภ.
  • ขอใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงานไฟฟ้าประเภทผลิตไฟฟ้าจาก กฟผ. หรือ กฟภ.

ขั้นตอนการยื่นขายไฟฟ้า

1. ตรวจสอบคุณสมบัติ:

  • ตรวจสอบว่าตนเองมีคุณสมบัติตามที่ระบุข้างต้นหรือไม่
  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

2. เตรียมเอกสาร:

  • เอกสารแสดงความเป็นเจ้าของหรือครอบครองที่ดิน
  • เอกสารรับรองมาตรฐานทางเทคนิคและความปลอดภัยจาก กฟผ. หรือ กฟภ.
  • เอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (กรณีมี)

3. ยื่นคำขอ:

  • กรอกแบบคำขอขายไฟฟ้า
  • ยื่นเอกสารประกอบ
  • ชำระค่าธรรมเนียม โดยเริ่มต้นที่ประมาณ 8,000 บาท (ราคานี้ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)

4. รอพิจารณา:

  • กฟผ. หรือ กฟภ. จะพิจารณาคำขอภายในระยะเวลาที่กำหนด (ประมาณ 7-10 วัน)
  • แจ้งผลการพิจารณาให้ทราบ

5. ลงนามสัญญา:

  • กรณีได้รับอนุมัติ จะต้องลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. หรือ กฟภ.

สิ่งที่ต้องใช้

  • เอกสารแสดงความเป็นเจ้าของหรือครอบครองที่ดิน
  • ใบรับรองมาตรฐานทางเทคนิคและความปลอดภัยจาก กฟผ. หรือ กฟภ.
  • แบบคำขอขายไฟฟ้า
  • เอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (กรณีมี)

ข้อจำกัด

  • กำลังการผลิตไฟฟ้าต้องไม่เกิน 10 เมกะวัตต์
  • สถานที่ผลิตไฟฟ้าต้องอยู่ในพื้นที่ที่ กฟผ. หรือ กฟภ. กำหนด
  • ระบบผลิตไฟฟ้าต้องผ่านมาตรฐานทางเทคนิคและความปลอดภัยของ กฟผ. หรือ กฟภ.
  • ไฟฟ้าที่ผลิตต้องมีคุณภาพตามมาตรฐานของ กฟผ. หรือ กฟภ.

บริษัทติดตั้งโซล่าเซลล์

จากที่ได้อธิบายไป จะเห็นได้ว่า การติดตั้งโซล่าเซลล์นั้นคุ่มค่ามาก เพราะนอกจาจะช่วยประหยัดค่าไฟและคืนทุนในระยะยาวได้แล้ว ยังสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สิน และขายไฟส่วนเกินให้กับการไฟฟ้าได้อีกด้วย

ดีงนั้นแล้ว หากท่านกำลังมองหาบริษัทติดตั้งโซล่าเซลล์แบบครบวงจร ที่สามารถติดตั้งโซล่าเซลล์ได้ทุกระบบ ในราคาที่ย่อมเยา เราคือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด Solar by Personet ใ้บริการติดตั้งโซล่าเซลล์ทุกรูปแบบ โดยทีมงานวิศวกรผู้เชี่ยวขาญ ประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี พร้อมจัดจำหน่ายแผงและอุปกรณ์ในการติดตั้งที่ได้มาตรฐาน ติดต่อเราวันนี้ พร้อมบริการให้คำปรึกษาและลงพื้นที่สำรวจหน้างาน ฟรี โทรหาเราที่ 0632096313 หรือแอดไลน์มาที่ @personet